
ชุมพร ประตูสู่ภาคใต้ มีชายหาดติดทะเลอ่าวไทยซึ่งทอดยาวกว่า222กม. และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
จังหวัดชุมพรได้ดำเนินการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด โดยกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสาตร์ และอื่นๆ
เนื่องจากชุมพรมีสภาพภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศที่เหมาะแก่การเพาะปลูกเป็นอย่างยิ่ง
เมืองทางผ่านในอดีต ที่กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งทางฝั่่งทะเลอ่าวไทยในปัจจุบัน
ข่าวประชาสัมพันธ์และข่าวต่างๆที่น่าสนใจ รวมถึงรายละเอียดภารกิจผู้บริหารของจังหวัดชุมพร
แจ้งเบาะแสการกระทำความผิด หรือร้องเรียนการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในจังหวัดชุมพร
งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ ของจังหวัดชุมพร
คณะกรรมการบริหารและจัดหาระบบคอมพิวเตอร์จังหวัดชุมพร
โครงการตามพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชุมพร
หนังสือเวียน ประชาสัมพันธ์ ข่าว คำสั่ง
การประเมินผลการปฏิบัติราชการ ของจังหวัดชุมพร
ห้ามตั้งกระทู้ โพสต์ข้อความ รูปภาพ หรือ link ที่เป็นการพาดพิง เกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์, ขัดต่อศีลธรรม จรรยา ขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย, ก่อให้เกิดการขัดแย้ง แตกแยก, พาดพิงถึงบุคคลอื่นให้เกิดความเสียหาย, ใช้คำหรือรูปภาพไม่สุภาพ ส่อความหมายไปในทางที่ไม่เหมาะสม และห้ามกระทำการใดๆ ที่เข้าข่ายผิด พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ผู้โพสต์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อความหรือรูปภาพที่อยู่ในกระทู้ของตนเองแต่เพียงผู้เดียว และทีมงานขอสงวนสิทธิในระงับ การเข้าใช้งาน และลบข้อความที่ขัดต่อข้อตกลงดังกล่าวโดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
หลายคนอาจคิดว่าจังหวัดชุมพรนั้นมีแต่สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทะเล หรือเกาะต่างๆ แต่จริงๆแล้ว จังหวัดชุมพรยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ และหนึ่งในนั้นก็คือ "พะโต๊ะ"
อำเภอะพะโต๊ะนี้ไม่มีพื้นที่ติดกับทะเล แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้ทะเลเลย นั่นก็คือการล่องแพ ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่มีนักท่องเที่ยวสนใจอยู่มาก
ระหว่างทางที่ล่องแพก็จะได้ชื่นชมธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก นอกจากจะเห็นต้นไม้ ป่าเขาที่เขียวขจีแล้ว เนื่องจากพะโต๊ะมีป่าที่สมบูรณ์มาก ดังนั้นในบางช่วงของก็ยังอาจมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าออกมาหากินอย่างอิสระอยู่ตามรายทาง เช่น ค่างแว่นถิ่นใต้ และนกเงือก
นอกจากล่องแพแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น การเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติที่เขานมสาว ซึ่งที่นี่เป็นจุดที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งสามทะเล คือ กลางคืนแลทะเลดาว ตื่นเช้าแลทะเลหมอก แดดออกแลทะเลป่า รวมถึงสามารถเดินชมสวนผลไม้ ลงเล่นน้ำในแก่งน้ำต่างๆ และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านโดยการพักแบบโฮมสเตย์
ถ้าหากใครมโอกาสได้มาเที่ยวพะโต๊ะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็จะได้อยู่ในช่วงเทศกาลล่องแพพะโต๊ะ และเปิดเมืองเมืองกินฟรี ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลองกินอาหารพื้นบ้านต่างๆที่ชาวบ้านช่วยกันทำ
เชื่อว่าใครก็ตามที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่จะต้องประทับใจกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และความเรียบง่ายของชาวบ้านที่นี่อย่างแน่นอน